
หน้าต่างแห่งประสบการณ์ชีวิตบานแรก
กสุมา สาติยะ
“หน้าต่างบานแรก” เป็นนวนิยายขนาดสั้นเพียง 12 บท ที่กฤษณา อโศกสิน ได้หยิบยกชีวิตของวัยรุ่นที่ปรากฏอยู่ในสังคมปัจจุบันมาเป็นข้อเตือนใจให้กับผู้อ่าน
เนื้อเรื่องกล่าวถึง ฉายาเป็นลูกชายคนเดียวของโฉมและตระการ เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปี 2 ฉายาพบหนึ่งที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย หนึ่งเป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกง เธออายุ 16 ปี ชอบเที่ยวกลางคืนทำให้ถูกแม่ด่าอยู่บ่อยๆ ด้วยความที่ฉายาเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร จึงได้เสียกันจนปล่อยให้ท้อง ฉายาพาหนึ่งเข้าบ้านทำให้ตระการและโฉมโกรธมาก แต่ก็ทำใจได้ในที่สุด หนึ่งกลับสร้างความวุ่นวายสารพัดจนฉายารู้สึกเบื่อหน่าย ครั้นหนึ่งคลอดลูกสาวออกมา ทุกคนเลี้ยงดูเด็กน้อยอย่างดี เว้นแต่หนึ่งที่ออกไปทำงานนอกบ้านไม่สนใจลูกและมีสามีใหม่
ผู้แต่งเสนอนวนิยายผ่านโครงเรื่องการชิงสุกก่อนห่ามของวัยรุ่น โดยสร้างให้ฉายา หนุ่ม “ผิวสีทองแดงตึงแน่น กล้ามสวย...นัยน์ตางาม จมูกโด่ง แข้งขาสมบูรณ์ได้สัดส่วน...” (หน้า 4) พาหนึ่งเด็กสาวอายุ 16 ปี ที่เขามองว่า “เหมือนน้ำค้างกลางหาว” (หน้า 4) เข้าบ้าน นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายภายในบ้านที่เคยสงบสุข ตอนนี้ปัญหาใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งตั้งท้อง ทำให้โฉมและตระการต้องแบกภาระเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่หนึ่งอยู่บ้านก็ทำตัวเป็น
ไม้เบื่อไม้เมากับโฉมและสด สาวรับใช้ในบ้านตลอด ความรักที่ฉายากับหนึ่งมีให้กันก็เริ่มเปลี่ยนไป “ฉายาหวังจะได้รับการเอาอกเอาใจจากเมียสาวบ้าง หวังว่าจะยังคงไปไหนไปได้กับผองเพื่อนกลุ่มเดิม มีเวลาเดินเล่นเตร็ดเตร่ มีเวลาดูหนังสือ มีเวลาคุย...แต่นี่ไม่ใช่เช่นนั้น นอกจากหนึ่งจะแพ้ท้องอาเจียนให้เขาต้องเป็นธุระขยะแขยงแล้ว ยังเอาแต่ใจตนอีกหลายๆ เรื่อง” (หน้า 52) ส่วนหนึ่งก็หึงหวงฉายาและคอยหาเรื่อง “เอะอะอะไรอ้างดูหนังสือ ยังกะว่าใครเค้าโง่งั้นนี่ พอเจอเพื่อนก็สูบบุหรี่กินเหล้ากัน” (หน้า 54) เมื่อช่วงข้าวใหม่ปลามันผ่านไป หนึ่งคลอดลูกเป็นผู้หญิง “ผิวเหมือนแม่ เครื่องหน้าเหมือนพ่อ คิ้วยาวเรียว จมูกก็โด่ง...ปากนิดนึง อุ๊ย...เหมือนตุ๊กตา...” (หน้า 76) หนึ่งก็เริ่มลดน้ำหนักทำตัวให้สวยเหมือนแต่ก่อน ไม่สนใจลูกและสามี จากนั้นจึงออกไปทำงานและมีสามีใหม่ ที่ “ทำงานอยู่ด้วยกันนั่นแหละ...อายุก็คงแก่กว่าฉายาแยะเหมือนกัน อาจจะราวๆ สามสิบ” (หน้า108) พ่อม่ายเมียทิ้งอย่างฉายาได้รับบทเรียนจากหน้าต่างบานแรกนี้อย่างที่สุด
ผู้แต่งตั้งชื่อเรื่อง “หน้าต่างบานแรก” ให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ ซึ่งมีความเหมาะสมกับตัวละคร “ฉายาอายุเกือบยี่สิบ กำลังเป็นหนุ่มที่อยากค้นให้พบโลกอันแสนวิเศษ มหัศจรรย์” (หน้า 2) เมื่อเปิดหน้าต่างบานแรกออกไปเจออะไร “ก็ซาบซึ้งว่าไอ้นั่นแหละคือโลกทั้งหมด” (หน้า 66) จะเห็นว่าฉายาขาดประสบการณ์ชีวิต ผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างโฉมและตระการจึงรู้ดีถึงอนาคตของวัยรุ่นที่ชิงสุกก่อนห่าม รักกันง่ายๆ และมักเบื่อหน่ายกันเร็ว “นึกอยู่แล้วเชียวว่าสักวันจะได้ยินลูกพูดประโยคนี้ เพียงแต่ไม่นึกว่าจะเร็วถึงเช่นนี้เท่านั้น”
(หน้า 52)
สำหรับตัวละคร “ฉายา” เปิดหน้าต่างบานแรกของเขาออกมาเจอต้นอุตพิด ที่คิดว่าต้นไม้นี้สวยที่สุด คือเปิดโลกกว้างออกมาเจอปัญหาชีวิตการชิงสุกก่อนห่ามที่เป็นปัญหาตามมาแทบจะแก้ไม่ตก
ปัญหาการชิงสุกก่อนห่ามในปัจจุบันนี้มีอยู่มาก ทั้งที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ เรื่องการทำแท้งทารก 2002 ศพ ซึ่งเป็นข่าวดังครึกโครม จนปัจจุบันนี้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หลายฝ่ายเห็นว่าห้ามปรามการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นไม่ได้ จึงหันมารณรงค์ให้วัยรุ่นใช้
ถุงยางอนามัย เพื่อคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศที่จะก่อเกิดเป็นปัญหาสังคมต่อไป
“หน้าต่างบานแรก” สะท้อนปัญหาสังคมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งสังคมมองเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ผู้แต่งกลับนำมาสร้างสรรค์เป็นงานเขียนที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นคติสอนใจผู้อ่านที่กำลังจะเปิดหน้าต่างบานแรกหรือเปิดหน้าต่างไปแล้วได้คิดให้รอบคอบก่อนที่กระทำสิ่งใดลงไป เพราะมิใช่ผู้กระทำฝ่ายเดียวที่เสียใจ แต่ยังรวมไปถึงคนรอบข้างอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น